แบล็คแจ็ค หรือเกม blackjack ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมโต๊ะยอดฮิตในเกมคาสิโนออนไลน์ทั่วโลก และในคาสิโนสด ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเล่นง่าย แบล็คแจ็คออนไลนใน Casino Online หนึ่งที่มีผู้เล่นนักเดิมพันทุกคนเล่นกันทั่วโลก เพราะแบล็คแจ็คเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีไม่เพียงแต่ที่จะอาศัยดวงในการเอาชนะ แต่ยังต้องอาศัยทั้งไหวพริบ และ ทักษะการ วางเดิมพัน ในการคำนวณ แบล็คแจ็คออนไลน์ อีกด้วย สำหรับกฎการเดิมพันแบล็คแจ็คออนไลน์ได้เงินจริงนั้นไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ต้องหมั่นศึกษากฎพื้นฐาน และ ขึ้นอยู่กับฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ท่านจะมีโอกาสจะชนะ และ สร้างกำไร ได้จากเกมแบล็คแจ็คออนไลน์ไปได้อย่างไม่ยากเลย
ประวัติที่น่าสนใจของเกมไพ่ แบล็คแจ็ค
ต้นกำเนิดของเกมไพ่แบล็ค-แจ็คนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน แต่มีแนวโน้มว่ามีที่มาที่ไปของการวางเดิมพันมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเกมการเดิมพันที่ชื่อว่า vingt-et-un (แปลตรงตัวได้ว่า 20 และ 1 หรือ 21 นั่นเอง) ลักษณะของเกมนี้จะมีการแจกไพ่ให้กับผู้เล่นที่คล้ายกันกับกติกาของแบล็ค-แจ็คในปัจจุบัน ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของเกมคือ การลุ้นผลรวมของแต้มในมือให้มากที่สุด แต่ต้องไม่เกิน 21 แต้ม นอกจากนี้ยังพบข้อมูลสนับสนุนของเกมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมไพ่ของชาวอิตาเลียน ที่จะวัดผลแพ้ชนะจากแต้มที่รวมกันได้ 7.5 แต้ม หากแต้มในมือเกินจากนี้ จะถือว่าแพ้ทันที ทั้งนี้ยังมีเกมไพ่ 31 แต้ม ของชาวสเปนที่อาจถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารูปแบบการเล่นแบล็ค-แจ็ค ที่เราเห็นในยุคปัจจุบัน
เกม ไพ่ 21 แต้มนี้ ถูกเปิดตัวอย่างกว้างขวางในประเทศอเมริกา ราวปี ค.ศ. 1800 แต่ในช่วงแรกนั้นยังไม่ได้รับความนิยมในคาสิโนมากนัก ถึงขั้นที่มีการเสนอการจ่ายผลตอบแทน 10 ต่อ 1 หากผู้เข้าร่วมเดิมพันสามารถที่จะชนะด้วยแต้มแบล็ค-แจ็คในไพ่ 2 ใบแรก เพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้เล่นเข้ามาเล่นเกมรูปแบบนี้เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งเริ่มได้รับความนิยมและถูกตั้งชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า แบล็ค-แจ็ค
จากนั้นมีการนำรูปแบบของ การเล่นแบล็ค-แจ็ค เข้าไปใช้กับการเล่นพนันในเนวาด้า ช่วงปี ค.ศ. 1931 ซึ่งถูกระบุให้เป็นเกมพนันที่ถูกกฎหมาย มีให้ได้เล่นกันในบ่อนคาสิโนลาสเวกัส และนั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดตัว แบล็ค-แจ็ค ในคาสิโนกันอย่างเต็มรูปแบบ ในเวลาต่อมาแบล็ค-แจ็ค ถูกระบุให้เป็นรูปแบบพื้นฐานของการเล่นเกมไพ่ชนิดนี้ เมื่อได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น จึงมีการนำมาเป็นรูปแบบของเกมคาสิโนออนไลน์
กติกาวิธีการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
เกมไพ่แบล็ค-แจ็คออนไลน์ได้เงินจริง นั้นไม่ได้แตกต่างจากเกมไพ่ทั่วไป สำหรับกลยุทธ์วิธีเล่นแบล็ค-แจ็คมีพื้นฐานเกียวกับที่ใช้เล่นได้นั้นก็จะไม่แตกต่างกันมากนักทั้งคาสิโนออนไลน์ และคาสิโนสด มีแค่ 2 ฝั่ง คือ ฝั่งผู้เล่น และ ฝั่งของเจ้ามือ ซึ่งผู้เล่นแบล็คออนไลน์โดยส่วนใหญ่จะตกหลุมพรางว่าจะต้องทำไพ่แบล็ค-แจ็คให้ได้ถึง 21 แต้ม จึงจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เทคนิคการวางเดิมพันไพ่แบล็ค-แจ็คออนไลน์แบบ นี้นั้นจะไม่สามารถเอาชนะได้ในระยะยาว แต่เทคนิคที่จะสร้างกำไรให้ท่านได้นั้น คือ การรวมแต้มหน้าไพ่ที่มีนั้นหากผู้เล่นถืออยู่ให้ใกล้เคียงกับ 21 แต้ม สูงสุดท่านจะเป็นผู้เล่นที่ชนะในเกมแบล็ค-แจ็คออนไลน์ blackjack online ไปได้ไม่ยาก
ผู้เล่นสามารถขอไพ่เพิ่ม หรือ จั่วไพ่เพิ่มได้ หากยังไม่ใกล้เคียงได้ 21 แต้ม หรือแบล็ค-แจ็ค แต่ทั้งนี้แต้มรวมที่ได้ไพ่นั้นต้องไม่เกิน 21 แต้มของไพ่ทั้งหมด หากผู้เล่นแต้มรวมแล้วเกิน 21 แต้ม ก็จะถือว่าแพ้เสียเงินทันที สำหรับการวางเดิมพันแบล็ค-แจ็คดูไพ่นั้น ไพ่ A ปกติจะมีค่าเท่ากับ 1 แต้ม แต่ก็อาจจะเป็นที่ 11 แต้ม ได้ ขึ้นอยู่กับหน้าไพ่ที่ถือคู่กันอยู่ในขณะนั้น ส่วนไพ่ J,Q,K ของไพ่แบล็ค-แจ็ค ที่จะมีค่าเท่ากับ 10 แต้ม สูงสุด
วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
เกมไพ่แบล็ค-แจ็คออนไลน์เล่นไม่ยาก ทำตามขั้นตอนง่ายๆได้ดังต่อไปนี้
- เลือกห้องเดิมพัน ผู้เล่นเลือกว่าจะนั่งห้องไหน จากผู้ให้บริการได้ตามอำเภอใจ
- วางเงินเดิมพันดีลเลอร์เปิดให้เดิมพัน ผู้เล่นวางเงินได้เลย
- แจกไพ่ เล่นต่อหรือหยุดลุ้นผลไพ่ และเลือกว่าจะจั่วเพิ่มหรือหยุด
- ลุ้นผลไพ่ฝั่งดีลเลอร์หากแต้มได้มากกว่าดีลเลอร์ท่านก็ชนะไปเลยทันที!
ขั้นตอนการเอาชนะการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
ตอนนี้ผู้เล่นคาสิโนออนไลน์เป็นที่รู้กันถึงหลักการหลักๆ ของการเล่นเกมแบล็ค-แจ็คออนไลน์กันแล้ว ขั้นตอนถัดไปเราจะมาดูกันว่ามีกลยุทธ์เข้าสู่ชัยชนะของการเล่นแบล็ค-แจ็คออนไลน์เป็นอะไรกันบ้างมีดังต่อไปนี้
- ถ้าหากมีไพ่บนมือมากกว่า 17 แต้ม จากนั้นไม่ควรที่จะทำการวางเดิมพันจั่วไพ่เพิ่ม เพราะมีโอกาสมากที่สุดการนับแต้มไพ่จะทะลุ 21 จากการจั่วไพ่ใบที่สาม
- Hit เมือเราจะมีแต้มที่ 11 หรือน้อยกว่า เนื่องจากยังมีโอกาสยากที่เราจะชนะอีกฝ่ายได้ โดยจะมีเป้าหมายให้มีการนับแต้มรวมใกล้เคียงมีค่าเท่ากับ 21 แต้มที่สูงสุด ให้มากที่สุด
- จะทำการ Stand เมื่อไพ่บนมือมีเท่ากับ 13 หรือ มากกว่า และ ไพ่เจ้ามือจะมี 6 แต้ม หรือ น้อยกว่า นอกจากนั้นให้ผู้เล่นดูไพ่หงายของดีลเลอร์หรือเจ้ามือจะได้นำไปประกอบกันคาสิโนออนไลน์ได้เงินจริงที่เราแนะนำไปด้วย
- การ Split หรือ แยกไพ่เป็นคู่ 2 ใบเป็นอีกหนึ่งในเรื่องที่ควรระวังมากๆในการเล่นเกมที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์เป็นเกมที่ผู็เล่นสามารถแยกไพ่ได้ทุกคู่บางแห่งบางแห่งเท่านั้น แต่ตามกฎมาตรฐานแล้วเราจะแยกได้เฉพาะไพ่คู่ ace และ 88 และ หลังจากแยกแล้วก็ต้องเพิ่มเงินลงไปในขาที่แยก ซึ่งการ Split ที่จะช่วยให้ท่านผู้เล่นได้มีโอกาสเข้าสู่ในการชนะเงินเดิมพันด้วยการได้แต้มไพ่ 21 มากขึ้น
- การเพิ่มเงินเป็นสองเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ผู้เล่นได้ทำกำไรจากเว็บของคาสิโนออนไลน์ใหม่ล่าสุด เป็นเกมที่แบล็ค-แจ็คออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น แต่การเล่นเกมที่แบบ Double Down นั้น ไม่เหมาะเริ่มเล่นกับมือใหม่ เพราะเซียนนักเดิมพันจะทราบว่าจังหวะที่ดีที่สุดในการ Double Down คือตอนไหน ซึ่งจังหวะที่ดีที่สุดในการ Double Down นั้นคือ ช่วงเวลาที่เรามีอยู่มีค่าเท่ากับ 10-11 แต้ม และยังมีแต้มไพ่ต่ำกว่า 6 นั่นเอง
- อีกประเภทการวางเงินเดิมพันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการเล่นเกม black jack คือ ไม่ว่าจะเดิมพันว่าไพ่จะออกคู่ หรือ Perfect Pair ที่ผู้เล่นจะได้รับเงินเดิมพันสูงสุดถึง 11 เท่าเลยทีเดียวเป็นวิธีเล่นที่ได้เปรียบมาก
คำศัพท์เล่นแบล็คแจ็ค
ก่อนที่นักเดิมพันทุกคนที่จะเล่นแบล็ค-แจ็คนั้น ท่านจะต้องศึกษาเกียวกับคำศัพท์การวางเดิมพันที่ใช้สำหรับในการเล่นเกมไพ่แบล็ค-แจ็คออนไลน์เป็นเกมที่มีศัพย์เยอะที่ได้รับความนิยม และแตกต่างกับเกมอื่น เนื่องจากการเล่นแบล็ค-แจ็คออนไลน์เป็นเกมต้องอาศัยฝีมือในการเดิมพัน ดังนั้นจึงสามารถเล่นเกมไพ่แบล็ค-แจ็คนั้นได้อย่างสนุกเพลิดเพลินไปกับคาสิโนเป็นอย่างดี
- STAND : การหยุดโดยไม่ต้องทำการจั่วไพ่เพิ่ม เพราะพอใจในคะแนนที่เกิดขึ้นของตัวเองแล้ว และ ท่านควรจะต้องมั่นใจไพ่ในมือของท่านด้วย ในกรณีที่ดีลเลอร์หรือเจ้ามือจะถามว่าต้องการแจกไพ่เพิ่มหรือไม่ ให้ผู้เล่นสามารถเลือกกดที่ Stand หรือ ทำการบอกปฏิเสธได้
- HIT : ในกรณีที่ผู้เล่นแบล็ค-แจ็คมีคะแนนน้อยบนมือ ท่านก็จะต้องทำการกด HIT เพื่อสู้ หรือ เรียกไพ่เพิ่ม เพื่อให้มีค่าเท่ากับเข้าใกล้ 21 แต้มหรือแบล็ค-แจ็ค ให้อย่างมากที่สุด
- SPLIT : กรณีนี้ที่จะเกิดขึ้นมาเฉพาะช่วงไพ่สองใบแรก และ ไพ่สองใบนี้ ที่เจ้ามือจะแจกไพ่ให้ต้องเป็นไพ่คู่ที่ไม่แตกต่างกัน (หน้าไพ่เดียวกันทั้งสองใบ) โดยจะถามเราว่าต้องการแบ่งไพ่ออกเป็นสองใบ (Split) หรือไม่ หากเราโอเคกับไพ่แบล็ค-แจ็คก็สามารถทำการแยกหน้าไพ่คู่ 2 ใบออกเป็น 2 ชุด และ ท่านจะสามารถทำการเรียกไพ่ของท่านทำการเพิ่มได้ตามปกติ ซึ่งไพ่ทั้งสองชุดสามารถใช้กับเจ้าได้ทั้งสองชุด
- DOUBLE : คือการที่ผู้เล่นแบล็ค-แจ็คได้ไพ่สองใบ สามารถทำการเลือกอีกครั้งซ้ำครั้งที่แล้วได้ และ จะทำการจั่วไพ่ได้แค่ใบเดียวเท่านั้น หากได้ไพ่แบล็ค-แจ็ค ที่จะไม่สามารถทำการเดิมพันสองเท่าได้ อีกทั้งการเดิมพันได้ว่าสองเท่าที่จะสามารถทำได้หลังจากนั้นแยกเป็นเกมไพ่แบล็ค-แจ็คแล้วเท่านั้น
- BLACKJACK : คือการใช้สำหรับเรียกเปิดไพ่ของท่านโดยไพ่ 2 ใบแรก ที่สามารถรวมกันแล้วได้ ที่ท่านจะได้รับ 21 แต้ม สูงสุด ทันที ซึ่งรวมถึงไพ่ในมือของเกมไพ่แบล็ค-แจ็คที่มีการนับแต้มไพ่ของท่านมีค่าเท่ากับ 10 และ ไพ่ ace
- EVEN MONEY : คือการเรียกไพ่เก็บก่อน ดังนั้นเมื่อผู้เล่นได้ไพ่แบล็ค-แจ็คก่อนสามารถที่จะขอเก็บเงินก่อนได้ ซึ่งในกรณีที่เจ้ามือมีไพ่เป็น Ace เพื่อทีจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการเสมอกับเจ้ามือนั่นเอง เมื่อเรียกเก็บก่อนนั้นที่มีอัตราการจ่ายในการเดิมพันของแบล็ค-แจ็คมีค่าเท่ากับ 1:1 ไม่ว่าไพ่ของเจ้ามือจะออกในลักษณะใดก็ตาม
- FIRST BASE : ผู้เล่นที่จะทำการเล่นแบล็ค-แจ็คแทนในขณะที่ดีลเลอร์หรือเจ้ามือได้ออกจากโต๊ะแล้ว จะเรียกผู้เล่นเหล่านั้นเรียกว่า First Base ที่ผู้เล่นท่านนี้จะได้รับการ์ดเป็นผู้เล่นคนแรก ดังนั้นถ้าหากไม่ได้เล่นแบบทัวร์นาเมนต์แล้วนั้น ที่ผู้เล่นท่านนั้นจะเป็นผู้เล่นคนแรกของแบล็ค-แจ็คนั่นเอง
- HOLE CARD : หัวใจของ Hole carding คือการเก็บข้อมูลเกียวกับบางอย่างหลังจากไพ่ที่มีคว่ำอยู่ (Hole card) ของเจ้ามือ มีการที่จะมองไพ่ใบนี้ได้จำเป็นที่ต้องใช้ความสามารถล้วนๆ อุปกรณ์ไม่ต้อง ถึงมันจะดูยากไปเสียหน่อยแต่รับรองว่าเป็นสิ่งไม่ผิดกฎหมาย
- SURRENDER : ใช้ได้เมื่อตอนได้แบล็ค-แจ็คที่จะแจกไพ่ 2 ใบแรก เท่านั้น ซึ่งในขณะที่บางเกมที่ผู้เล่นสามารถขอยอมแพ้เดิมพันได้ และ ได้เงินจริงในการพนันกลับคืนมาแค่ครึ่งเดียว และอีกครึ่งจะต้องเสียเงินไป
- UP CARD : ไพ่ที่เป็นของดีลเลอร์หรือกับเจ้ามือที่หงายน่าขึ้นมาจะถูกเรียกว่า ‘upcard’
วิธีการนับแต้ม blackjack (แบล็คแจ็ค)
สำหรับการนับแต้มไพ่ แบล็ค-แจ็ค จะต่างจากพวกไพ่อื่น ๆ ที่ใช้แค่หลักหน่วยเป็นตัวชี้ขาด สิ่งสำคัญในการวัดว่าใครแพ้หรือชนะคือแต้มรวมของไพ่ทั้งหมดในมือ ผู้ชนะคือคนที่รวมแต้มแล้วได้ 21 แต้มหรือใกล้เคียงที่สุด ส่วนคนที่ได้แต้มน้อยกว่าหรือว่ารวมแต้มแล้วเกิน 21 แต้มก็จะเป็นผู้แพ้ทันที ว่าแล้วเรามาดูแต้มไพ่กันดีกว่าครับว่าไพ่แต่ละใบมันมีกี่แต้ม จะได้ไม่พลาดกัน
- ไพ่ A (Ace) เป็นไพ่เดียวที่มีสองค่าแล้วแต่ว่าจะไปอยู่กับไพ่ใบไหน หากไปอยู่ร่วมกับไพ่ 10, J, Q หรือ K ก็จะทำให้มีค่าเป็น 11 แต้ม และทำให้ติดแบล็ค-แจ็คทันที แต่ถ้าไปอยู่กับพวกไพ่หน้าแต้ม 2-9 ไม่ว่าจะดอกไหนก็มีค่าแค่ 1 แต้มเท่านั้น
- ไพ่หน้าแต้ม 2-9 เป็นกลุ่มไพ่ที่มีค่าเท่ากับหมายเลขหน้าแต้ม
- ไพ่หน้า 10 , J , Q และ K ทั้งสี่ใบนี้จะมีค่าเท่ากันคือ 10 แต้ม
10 เทคนิคการนับไพ่แบล็คแจ็ค
เทคนิคการนับไพ่แบล็ค-แจ็คเกิดจากแนวคิดที่ผู้เล่นต้องการจะทราบว่าไพ่ที่เหลือในกองเป็นไพ่อะไรหรือใครถือไพ่อะไรไว้ในมือ ทั้งที่อาจจะไม่รู้อย่างแม่นยำว่าจะเป็นเลขนี้แต่ก็สามารถคาดเดาได้ว่าเป็นไพ่อะไรที่เหลือในมือและในสำรับ โดยสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นรู้ได้นั่นก็คือ การนับไพ่ทุกใบถูกจั่วและลงกองกลางไปแล้วทำให้พอเดาได้ว่าไพ่ไหนที่เหลืออยู่นั่นเอง ดังนั้นแล้วทางคาสิโนส่วนใหญ่ทั่วไปหรือทางเจ้ามือก็มักจะมีการออกกฎห้ามนับไพ่
- นับไพ่แบบ Thorp’s Ten สำหรับการนับไพ่วิธีนี้ที่จะเหมาะกับการใช้ไพ่แค่สำรับเดียวเท่านั้น หากออก 1-9 ให้นับ +4,ออก 10 นับ-9 โดยหากว่าได้เลขค่าบวกเยอะก็หมายความว่าในสำรับจะมีไพ่ตัวเลขที่เหลือน้อยลงแล้ว
- นับไพ่แบบ Ace/Five การนับวิธีนี้จะใช้กับไพ่ดัมมี่ด้วยการที่ไพ่ต่ำกว่า5 ให้นับ+1 หากว่ามีไพ่A ออกมาให้นับ-1 และหากผลรวมเป็นบวกมากกว่า +2 ขึ้นไปก็เท่ากับว่าให้วางเงินเดิมพันได้เลย
- นับไพ่แบบZen จะทำการเริ่มนับทุกสำรับด้วย 0 หากว่าไพ่A ให้-1,10 J Q Kให้ -2,8-9 ให้ -0,2 3 7 ให้+1, 4 5 6 ให้ +2 หลังจากนั้นให้ทำการวิเคราะห์ตามแต้มรวมโดยต้องสัมพันธ์กับไพ่ในสำรับ
- นับแบบ Omega โดยจะมีการเริ่มนับที่0 หากว่าเป็นไพ่ Aหรือ8 นับ+0, 2 3 7 นับ+1,4 5 6 นับ +2,9 นับ-1,10 นับ -2 และวิเคราะห์สำรับไพ่นั่นก็คือ ค่าบวกเป็นไพ่สูงเยอะส่วนค่าลบจะเป็นไพ่ต่ำเยอะ
- นับไพ่แบบ Wong Halves วิธีนี้จะเริ่มต้นที่ค่า0 ที่จะทำการจั่วไพ่ 10 J Q K A นับ-1,9 นับ 0-5, 8 นับ -0,2 หรือ7 นับ +0.5,3-6 นับ +1 โดยประเมิณได้ว่า ค่ารวมเป็นบวก = ไพ่สูงเยอะหรือค่ารวมเป็นลบ= ไพ่ต่ำเยอะ
- นับไพ่แบบ Hi-Lo โดยวิธีนี้จะใช้ได้กับBlackjack รวมไปถึงเกมไพ่อื่น ๆ ได้อีกหลายเกมด้วยกัน วิธีการคือ ให้นับ2-6 เป็นต่ำ+1 ,7-9 เป็นกลาง+0,10 J Q K A เป็นสูง -1 โดยจะประเมิณได้ว่าไพ่ที่เหลือในสำรับและในมือผู้เล่นอื่นอาจจะเป็นไพ่สูงหรือต่ำ
- นับไพ่แบบ Red Seven โดยจะทำการเริ่มนับตามจำนวนสำรับ 1 2 4 6 8 สำรับ ใหันับ -2,-4,-8,-12,-16 โดยไพ่10 J Q K A ให้ -1,2-6 ให้ +1,8-9ให้ +0 ผลลัพธ์สุดท้ายในการนับไพ่ทั้งหมดนั่นก็คือ+2
- Hi-Opt I โดยจะใช้กับไพ่Blackjack ทุกสำรับนับจาก0 และหากว่าจั่วไพ่3-6นับ +1,10 J Q K นับ -1,A 2 7 8 9 นับ +0
- Hi-Opt II วิธีนี้ที่ส่วนใหญ่แล้วจะใช้กับการเล่นBlackjack โดยจะเล่นกี่สำรัรบก็ให้นับที่ +0 หากไพ่ออก 2 3 6 7 นับ +1,4-5 นับ +2,10 J Q K นับ -2,A 8 9 นับ +0
- นับแบบ Knock Out วิธีนี้ใช้สำหรับนับเกมBlackjack ให้นับสำรับที่ใช้ก่อนและหากว่าใช้1 2 6 8 สำรับจะต้องเริ่มนับ 0-4,-20,-28 โดยหากว่าจั่วไพ่ 10 J Q K A ให้นับ -1,2-7 นับ+1,8-9 นับ+0 รวมได้ค่าบวกประเมิณได้ว่าที่เหลือจะเป็นไพ่สูงเยอะแต่หากว่าได้ค่าลบหมายถึงที่เหลือไพ่ต่ำเยอะ
อัตราการจ่ายเงินสำหรับแบล็คเเจ็คออนไลน์
- หากมีผู้เล่นเป็นฝ่ายชนะจากการเล่นด้วยแต้มปกติ ที่จะมีอัตราการจ่ายเงินที่ 1:1
- หากมีผู้เล่นได้ชนะไพ่ในการเล่นด้วยแต้มแบล็ค-แจ็คได้ 21 แต้ม ที่จะมีอัตราการจ่ายเงินที่ 3:2
หลักประกัน คือการเล่นเกมแบล็ค-แจ็คออนไลน์แบบหนึ่งในการเดิมพันอาจจะมีการวางหลักประกันไว้ ตัวอย่างเช่น แต่ถ้าเจ้ามือมีไพ่ A ที่มีการหงายใบแรกเอาไว้ ท่านสามารถวางหลักประกันได้ด้วยการวางเงินเดิมพันได้ในแบล็ค-แจ็คอีกเท่าตัว และเมื่อเปิดไพ่ของเจ้ามือเป็นแบล็ค-แจ็ค ดังนั้นก็จะได้รับเงินรางวัลที่มีอัตราการจ่ายเงินที่ 2:1 แต่ถ้าไม่ได้แบล็ค-แจ็ค (ได้ 21 แต้ม) ต้องเสียเงินจริงที่ประกันไว้ทั้งหมด
กลยุทธ์ในการเอาชนะการเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
เมื่อเข้าใจวิธีการเล่นเป็นอย่างดีแล้ว เกมแบล็ค-แจ็คเป็นเกมที่เล่นง่าย และเป็นที่นิยมของนักพนัน ดังนั้นเป้าหมายการเอาชนะเจ้ามือการเดิมพันในไพ่แบล็ค-แจ็คนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากท่านได้ทำการศึกษาหาข้อมูลเกียวกับเกมแบ ล็ค แจ็ค และ เทคนิคต่างๆ ในการเล่นแบล็ค-แจ็คมาเป็นอย่างดี ขอเพียงศึกษาแบล็ค-แจ็คและทำความเข้าใจดีที่สุด ท่านมีสิทธิ์รวยได้ และ ทำเงินจริงได้อย่างมหาศาลอย่างแน่นอนจากเกมแบล็ค-แจ็ค และทางที่ดีเราอยากแนะนำให้ผู้เล่นจะใช้สิทธิผู้เล่นใหม่ในการรับโบนัส ไม่ว่าจะเป็นโบนัสเครดิตฟรีที่ไม่ต้องฝากเงิน สำหรับทดลองเล่นในเกมคาสิดนนี้ก่อน เข้าไปเลือกเล่นกันได้เลย
1.เทคนิกการวิเคราะห์ไพ่ในมือ
สำหรับ “มือแข็ง” คือเกิดขึ้นเมื่อไม่มีไพ่ A อยู่ในมือเลย ซึ่งตามกฎในการเล่นแบล็ค-แจ็คแล้วนักเดิมพันจะต้องทำการจั่วให้ท่านมีแต้มไพ่รวมไม่น้อย 15 แต้ม หรืออาจจะ Stand ที่ 17-21 สูงสุด แต้มก็ได้ หากมีใบใดใบหนึ่งไพ่ในมือที่เป็นไพ่ A ถือได้ว่าเรามี “มืออ่อน” คือไพ่ที่ได้เปรียบ ซึ่งหมายความได้ว่าไพ่นี้เป็นได้ทั้ง 1 แต้ม และ 11 แต้ม แต่ก็มีข้อดีตรงที่ว่าผู้เล่นอาจจะมีวิธีรับมือที่หลากหลายอย่างมากขึ้น ก่อนอื่นต้องดูได้ว่าการนับแต้มไพ่อีกใบหนึ่งของเกมการวาง ท่านควรมีมากหรือน้อย ถ้ามีแต้ม 2-7 ก็มีโอกาสที่จะจั่วไพ่ให้ได้อย่างมากขึ้น แต่ถ้าเป็นไพ่ 8-9 ความเสี่ยงได้รับไพ่ก็จะค่อยๆ มีการเพิ่มมากขึ้น เพราะท่านมีโอกาสมากที่แต้มไพ่ของทางท่านจะทะลุ 21 จากการจะจั่วไพ่ใบที่สาม และเสียเงินได้
2.เทคนิคการประกันแบล็คแจ็ค
สำหรับเทคนิคการประกันสำหรับการเล่นแบล็ค-แจ็คออนไลน์ให้ได้เงินจริงแล้วจะถือว่าเป็นทำการประกันเพื่อให้เกิดประโยชน์มากๆ โดยเฉพาะหากไพ่แบล็ค-แจ็คมีในมือของผู้เล่น มีแต้มที่มากกว่า 17 หรือ มีแบล็ค-แจ็ค(21แต้ม) เข้าสู่โอกาสที่ดีลเลอร์หรือเจ้ามือจะจับได้ที่มีค่าเท่ากับ 10 แต้มนั้นจะมีน้อยกว่าจั่วได้ไพ่ธรรมดาแน่นอน เมื่อจับได้แต้มที่ต่ำกว่าของผู้เล่น และ ท่านก็จะได้รับการชนะ 3:2 ของเงินเดิมพันเลยทีเดียว
บทสรุป เกมแบล็คแจ็ค
เกมแบล็ค-แจ็คถือเป็นเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในทุกส่วนของโลก เนื่องจากเป็นเกมที่เล่นง่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นมือใหม่ก็สามารถเดิมพันได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้กลยุทธ์ง่าย ๆ ที่ไม่ต้องมีความซับซ้อนนอกจากนี้ ท่านยังสามารถรับโบนัสและข้อเสนอพิเศษจากเว็บไซต์ คาสิโนออนไลน์ ได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะในเกมแบล็ค-แจ็ค ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังสามารถเดิมพันผ่านมือถือได้ในทุกๆ ที่ที่ท่านต้องการ โดยสามารถเข้าถึงเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ได้ทันทีผ่านทางโทรศัพท์มือถือของท่าน นอกจากนี้ ท่านยังสามารถทดลองเล่นเกมแบล็ค-แจ็คฟรีผ่านทางเวอร์ชั่นทดลองเล่น เพื่อเพิ่มความเข้าใจและความสามารถในการเดิมพันของท่านในเกมแบล็ค-แจ็คได้อีกด้วย